รมว.ศธ. กำชับหน่วยงานในสังกัดทุกแห่งเร่งแก้ปัญหายาเสพติด เดินหน้าหน่วยงานราชการสีขาว พร้อมให้ดูแลควา...
- ข่าวการศึกษา
- รมว.ศธ. กำชับหน่วยงานในสังกัดทุกแห่งเร่ง...

พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ที่ประชุมได้ติดการขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษา สพฐ.ได้มีการรายงานการขับเคลื่อนต่างๆ และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้มีการเสนอในที่ประชุมถึงการเปรียบเทียบวัดประเมินผลการศึกษา ซึ่งตนได้สั่งการในที่ประชุมให้มีการทำเพิ่มเติมว่าในระยะ 10 ปี การศึกษาของไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง พร้อมกันนี้ สกศ.ยังได้นำเสนอข้อมูลการยกระดับคุณภาพการศึกษาที่เป็นข้อมูลเปรียบเทียบในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยจะพบว่า คุณภาพการศึกษาของประเทศไทย มีความใกล้เคียงกับประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย และในข้อมูลการเปรียบเทียบดังกล่าวมีหลายประเด็นที่การศึกษาของประเทศไทยทำได้ดีกว่ากลุ่มประเทศเหล่านี้ ดังนั้นข้อมูลการเปรียบเทียบดังกล่าวจึงทำให้เห็นภาพการขับเคลื่อนการศึกษาได้อย่างชัดเจนขึ้น ซึ่ง สกศ.ได้เสนอแนวทาง 5 มาตรการในการวัดผล พร้อมทั้งจะเป็นฝ่ายศึกษาข้อมูลต่างๆในการแก้ไขคุณภาพการศึกษาให้ดีขึ้น โดย 5 มาตรการที่จะนำมาวัดผล ได้แก่ การเข้าถึงระบบการศึกษา,คุณภาพผู้เรียน,ความเท่าเทียม,ประสิทธิภาพการจัดการศึกษาและการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง ซึ่งตนมองว่าเป็นแนวทางที่ดีและน่าสนใจ ส่วนในเรื่องของงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการนั้นมีการใช้งบประมาณที่ต่ำกว่าเป้าอยู่ที่ 2% ดังนั้นจึงกำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการด้วย ส่วนงบประมาณแปรญัติของศธ.นั้น ขณะนี้กำลังจัดทำคำของบดังกล่าวอยู่ เพราะบางโครงการเราทำเรื่องขอเพิ่มเติมไปแล้วไม่ได้ แต่ยังมีงบแปรญัติที่ของการศึกษาปฐมวัย ประมาณ 12 ล้านบาท เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนในมิติดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม
รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ตนยังได้สั่งให้หน่วยงานและสถานศึกษาไปดำเนินการในเรื่องแผนดำเนินการมาตรการป้องกันภัยพิบัติต่างๆ หรือแผนเผชิญเหตุ ทั้ง อุทกภัย วาตภัย และแผ่นดินไหว ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับสถานศึกษา ส่วนเรื่องยาเสพติดที่ประชุมได้รายงานเรื่องมาตรการแก้ไขปัญหายาเสพติดของสถานศึกษา โดยภาพรวมการแก้ปัญหาดังกล่าวตนอยากให้หน่วยงานราชการสังกัดศธ.ทุกแท่งเป็นหน่วยงานสีขาวนอกเหนือจากโครงการโรงเรียนสีขาวปลอดยาเสพติด ตนจึงเน้นย้ำในส่วนของสถานศึกษาหรือสถานที่ทำงาน ภายใต้สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หรือหน่วยงานภายในกำกับ จะต้องปลอดจากสิ่งเสพติดซึ่งในที่นี้รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าจะต้องไม่มีอย่างเด็ดขาด
รวมถึงแนวทางป้องกันโดยจะต้องมีการไปร่วมกับทางฝ่ายปกครองในการช่วยกันสอดส่องดูแล ขณะเดียวกันตนได้กำชับมาตรการความปลอดภัยของนักเรียน โดยช่วงนี้จะพบข้อมูลนักเรียนก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ซึ่งขอให้โรงเรียนมีมาตรการตรวจตราเฝ้าระวังพฤติกรรมนักเรียน และสอดส่องเรื่องการพกอาวุธในโรงเรียนของเด็กด้วย
พลตำรวจเอกเพิ่มพูน กล่าวด้วยว่า ตนยังได้เน้นย้ำถึงข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีถึงการติดตามเด็กที่หลุดออกนอกระบบการศึกษา (Thailand Zero Drop out) โดยอยากให้สถานศึกษาไปดูเด็กที่หลุดออกนอกระบบการศึกษาไปแล้วและกลับเข้ามาในระบบอีกครั้งต้องมีการไปเฝ้าระวังและดูแลเป็นพิเศษเพราะเด็กกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะหลุดออกนอกระบบการศึกษาอีกได้