สกร. จับมือ สคช. พิจารณากลั่นกรองการประเมินความสอดคล้องและองค์ประกอบของหลักสูตรสถานศึกษา สกร. กับมาต...

    เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (อธิบดี สกร.) มอบหมายให้นางสาวเอื้อมพร ศรีภูวงศ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ เป็นประธานเปิดการประชุมพิจารณาหลักสูตรการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเองด้านอาชีพให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ เพื่อพิจารณากลั่นกรองข้อมูลหลักสูตรการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเองด้านอาชีพของผลิตภัณฑ์ชุมชนต้นแบบที่ได้รับการพัฒนา ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ โดยมีผู้แทนจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และบุคลากรในสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ระหว่างวันที่ 10 – 11 มิถุนายน 2568 ณ ห้องประชุมสุนทร สุนันท์ชัย (ชั้น 4) กรมส่งเสริมการเรียนรู้
 

    นางสาวเอื้อมพร ศรีภูวงศ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากคณะผู้แทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ในการพิจารณาและกลั่นกรองหลักสูตรของสถานศึกษาในสังกัด สกร. ทั้ง 77 หลักสูตร จากการคัดเลือกหลักสูตรสถานศึกษาทั่วประเทศเพื่อให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพของ สคช. นั้น ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอาชีพของประชาชนไทยให้มีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ ซึ่งจุดมุ่งหมายหลักของความร่วมมือดังกล่าวคือการประสานความเชี่ยวชาญระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต กับองค์กรที่ทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานสมรรถนะทางอาชีพ เพื่อให้เกิดการบูรณาการเนื้อหาหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานอย่างแท้จริง หลักสูตรของ สกร. ที่ผ่านกระบวนการประเมินและรับรองจาก สคช. จะเป็นหลักสูตรที่ไม่เพียงแค่สร้างความรู้พื้นฐานแก่ผู้เรียนเท่านั้น แต่ยังสามารถต่อยอดไปสู่การประกอบอาชีพได้จริง ผู้เรียนสามารถใช้ผลการเรียนรู้เพื่อยื่นขอประเมินสมรรถนะและรับคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานนอกระบบ แรงงานในชุมชน และประชาชนทั่วไปที่ต้องการยกระดับทักษะอย่างต่อเนื่อง

   นอกจากนี้ การขับเคลื่อนการทำงานความร่วมมือระหว่าง สกร. กับ สคช. ยังเป็นแนวทางสำคัญในการนำไปสู่การส่งเสริมระบบการโอนผลการเรียนรู้และการสะสมหน่วยกิต (Credit Bank) ตามแนวทางของการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยผู้เรียนสามารถนำผลลัพธ์จากหลักสูตรที่ได้รับการรับรอง ไปใช้ต่อยอดในระบบอื่นได้อย่างยืดหยุ่นในอนาคต เช่น การศึกษาตามคุณวุฒิตามระดับ การศึกษาระดับอุดมศึกษา หรือการพัฒนาทักษะเพิ่มเติมในสายอาชีพที่เกี่ยวข้อง ความเชื่อมโยงนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการปฏิรูปการศึกษาเพื่อการพัฒนาตนเองและพัฒนาศักยภาพแรงงานของประเทศอย่างเป็นระบบ และการประสานงานในลักษณะนี้ ยังแสดงถึงเจตนารมณ์ร่วมกันของทั้งสองหน่วยงานในการสร้างระบบการเรียนรู้ที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพ และตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาทุนมนุษย์ อันจะนำไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพในการดำรงชีวิตอย่างมั่นคงและยั่งยืน