สอศ. จัดอบรมพิชิตข้อสอบ HSK 2025 ปั้นนักศึกษาไทยกว่าพันคน ยกระดับทักษะภาษาจีนสู่สากล สร้างโอกาสทุน–ง...
วันที่ 15 กันยายน 2568 นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานพิธีเปิดโครงการพิชิตข้อสอบ HSK 2025 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนางหวัง เสี่ยวเยี่ยน (Ms. Wang Xiaoyan) รองผู้อำนวยการศูนย์แลกเปลี่ยนและส่งเสริมความร่วมมือด้านภาษาจีนระหว่างประเทศ สำนักงานกรุงเทพฯ คณะวิทยากร และนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา เข้าร่วมกว่า 1,200 คน
นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการ กอศ. กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดโครงการพิชิตข้อสอบ HSK 2025 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากร ได้พัฒนาทักษะภาษาจีนและสามารถสอบวัดระดับความสามารถด้านภาษาจีน HSK (Hanyu Shuiping Kaoshi) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลจีน อีกทั้งยังเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน อันเป็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
เลขาธิการ กอศ. กล่าวต่อว่า ภาษาจีนไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือสื่อสาร แต่ยังเป็นสะพานแห่งมิตรภาพที่เชื่อมโยงประชาชนของทั้งสองประเทศในทุกมิติ ทั้งด้านการศึกษา เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน รวมถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืน โดยโครงการนี้เป็นการอบรมทักษะด้านภาษาจีนตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับสูงสุดอย่าง HSK 6 แบ่งการอบรมเป็น 6 ห้อง ได้แก่ ระดับไม่มีพื้นฐาน–HSK 1, HSK 2-A, HSK 2-B, HSK 3, HSK 4 และ HSK 5–6 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างวันที่ 15–16 กันยายน 2568 ผู้เข้าอบรมจะได้รับประโยชน์จากเทคนิคการทำข้อสอบ การจำลองสถานการณ์สอบจริง รวมถึงการทดสอบก่อนและหลังการอบรม เพื่อให้สามารถประเมินผลและพัฒนาตนเองได้อย่างตรงจุด และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการสอบจริงได้มากขึ้น
เลขาธิการ กอศ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการสอบ HSK ยังเป็นโอกาสในอนาคต เช่น การขอทุนการศึกษาเพื่อศึกษาต่อในสถาบันต่าง ๆ ของจีน ตั้งแต่ระดับ ปวส. จนถึงระดับปริญญาเอก รวมถึงการทำงานในสถานประกอบการจีน ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ แสดงให้เห็นว่าโครงการนี้มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อผู้เรียน และต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ทั้งนี้ การดำเนินโครงการยังได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายที่ร่วมกันผลักดัน สิ่งสำคัญคือได้ร่วมกันสานต่อกระชับความสัมพันธ์ และเป็นพลังในการสืบสานความร่วมมือไทย–จีนให้ยั่งยืนตลอดไป