“เกศทิพย์” เน้นย้ำการใช้ระบบดิจิทัลขับเคลื่อนงาน สกร. สู่การบริหารจัดการเชิงข้อมูลและประสิทธิภาพ
- ข่าวการศึกษา
- “เกศทิพย์” เน้นย้ำการใช้ระบบดิจิทัลขับเค...
“เกศทิพย์” เน้นย้ำการใช้ระบบดิจิทัลขับเคลื่อนงาน สกร. สู่การบริหารจัดการเชิงข้อมูลและประสิทธิภาพ
2025-10-14 09:41:58

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2568 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (อธิบดี สกร.) เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณากำหนดค่าน้ำหนักตัวชี้วัดการประเมินผลการปฏิบัติราชการของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569–2570 ผ่านระบบออนไลน์ (Zoom Meeting) โดยมีนางยุพิน บัวคอม รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ผู้อำนวยการกอง/กลุ่ม/ศูนย์ ส่วนกลาง เข้าร่วมประชุม
สำหรับการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อรับทราบแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569–2570 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้กำหนด และเพื่อพิจารณากำหนดค่าน้ำหนักตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของกรมให้สอดคล้องกับภารกิจเชิงยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ
สาระสำคัญของระเบียบวาระการประชุม ประกอบด้วย การรับทราบแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ ซึ่ง ก.พ.ร. ได้ประชุมชี้แจงแนวทางเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 , การหารือข้อเสนอร่วมระหว่าง ก.พ.ร. และกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 25 กันยายน และ 7 ตุลาคม 2568 เพื่อปรับปรุงรายละเอียดตัวชี้วัดและหลักเกณฑ์การประเมินให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับผลสัมฤทธิ์เชิงยุทธศาสตร์ของกระทรวงฯ โดยให้ส่วนราชการจัดทำ (ร่าง) ค่าน้ำหนักตัวชี้วัดของแต่ละหมวดก่อนนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาครั้งสุดท้ายในวันที่ 20 ตุลาคม 2568
ทั้งนี้ กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ได้จัดทำร่างรายละเอียดตัวชี้วัดและหลักเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติราชการของกรมในเบื้องต้น ครอบคลุมตัวชี้วัดหลัก 4 หมวด ได้แก่
1. ตัวชี้วัดเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ (Strategic KPIs)เช่น ระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้านการศึกษา, อัตราการเข้าถึงการเรียนรู้ของประชากรวัยแรงงาน และการพัฒนาระบบบริการ e-Service ของกรม
2. ตัวชี้วัดการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาคี (Joint KPIs)เช่น Agenda 7 การแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา และการส่งเสริมคุณภาพการศึกษาเชิงบูรณาการ 3. ตัวชี้วัดตามภารกิจหลัก (Function KPIs)
เช่น ร้อยละของผู้สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน และผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาระดับชาติ (N-NET) 4. ตัวชี้วัดติดตามผลการดำเนินงาน (Monitor KPIs) เช่น การพัฒนาคุณภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ได้มาตรฐานคุณภาพ
นางเกศทิพย์ กล่าวว่า “เราต้องตั้ง วอร์รูมดิจิทัล (Digital War Room) ขึ้นมาอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การดำเนินงานด้านดิจิทัลของกรมได้ผลจริง และสามารถลดความเสี่ยงในการทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยจะให้คณะกรรมการชุดนี้ทำหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบความคืบหน้า ดูว่ามีส่วนใดที่ยังไม่เชื่อมโยงหรือยังไม่ถูกนำไปใช้ และพัฒนาแดชบอร์ดกลางของกรมให้สมบูรณ์”
ทั้งนี้ได้เน้นถึงการพัฒนาทักษะบุคลากรในทุกระดับว่า “การพัฒนาทักษะดิจิทัล (Digital Skill) ต้องดำเนินการให้เข้มข้นและครอบคลุมบุคลากรทุกระดับ ไม่เพียงแค่จัดอบรมประจำปี แต่ต้องมีการติดตามต่อเนื่องและสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ดิจิทัลให้เกิดขึ้นจริงในทุกพื้นที่” ในส่วนของ การป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา (Agenda 7) อธิบดีกล่าวว่า “ทุกหน่วยงานต้องจัดทำแผนบูรณาการในพื้นที่อย่างเป็นระบบ และให้สถานศึกษาทุกแห่งมีแผนป้องกันยาเสพติดที่ชัดเจน พร้อมรายงานผลผ่านระบบกลางของกรม เชื่อมโยงข้อมูลร่วมกับ กอ.รมน. และ ป.ป.ส. เพื่อใช้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ในการประเมินผล”
อธิบดีเกศทิพย์ได้มอบแนวทางชัดเจนในการขับเคลื่อนแต่ละตัวชี้วัด อาทิ
• KPI ที่ 5: ต้องมีมาตรการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลผู้เรียน และใช้ระบบดิจิทัลติดตาม (Tracking System) เชื่อมโยงกับฐานข้อมูลกลางและระบบ E-Student ของกรม เพื่อให้ทราบความเคลื่อนไหวของผู้เรียนจริง
• KPI ที่ 6: ให้สร้างแรงจูงใจในการสอบ เช่น มอบเกียรติบัตรสำหรับผู้ทำคะแนนดี และทำบันทึกความร่วมมือกับ สทศ. เพื่อให้ข้อสอบสะท้อนผลลัพธ์การเรียนรู้ได้ตรงจริง
• KPI ที่ 8: มอบหมายกลุ่มพัฒนาระบบบริหารจัดทำ Action Plan ย่อยในแต่ละหมวด ตั้งคณะกรรมการตรวจประเมินภายใน และจัด Workshop เตรียมความพร้อมก่อนการประเมินจริง
• KPI ที่ 9: จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อปรับปรุงคะแนน DG Readiness ที่ลดลงต่อเนื่อง 2 ปี พร้อมขอ Mentor Audit จาก ก.พ.ร.
• KPI ที่ 10: ให้เพิ่มระบบประเมินความพึงพอใจภายในและภายนอก พร้อมพัฒนา ITA Interactive Dashboard เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์องค์กรที่โปร่งใสจริง
อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กล่าวย้ำว่า : “ตัวชี้วัดต้องสะท้อนสิ่งที่ทำได้จริง” สิ่งสำคัญที่สุด คือเราต้องคิดและลงมือทำร่วมกันให้ถึงเป้าหมาย ตัวชี้วัดทั้งหมดต้องสะท้อนสิ่งที่เราทำได้จริง และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 การทำงานต้องมีระบบติดตาม มีคณะกรรมการและการตรวจประเมินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าถึงวันประเมินจริง เราจะพร้อมและสามารถแสดงผลงานที่ชัดเจนได้เต็มที่ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ในการกำหนดกรอบตัวชี้วัดที่ชัดเจน เป็นระบบ และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นหัวใจของการบริหารงาน เพื่อมุ่งสู่การเป็น “องค์กรสมรรถนะสูง” ที่ขับเคลื่อนการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนไทยทุกช่วงวัยได้อย่างยั่งยืน