สกร. ขานรับคนละครึ่งพลัสของรัฐบาล พาเรียนทักษะดิจิทัลสู่ประชาชนทุกช่วงวัย

    อธิบดีเกศทิพย์ เน้นย้ำให้สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดทั่วประเทศเร่งดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 มาตรา 5 ซึ่งมุ่งพัฒนาบุคคลให้มีความสมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เพื่อให้เป็นผู้มีทักษะการเรียนรู้ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิตที่เท่าทันพัฒนาการของโลก โดยให้แต่ละจังหวัดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง พร้อมสร้างเครือข่ายภาคีร่วมจัดการเรียนรู้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขยายผลการดำเนินงานให้ถึงทุกชุมชนและทุกครัวเรือน แนวนโยบายดังกล่าวสอดรับกับ นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มุ่งพัฒนา “Flexible Education” การศึกษายืดหยุ่นที่ตอบโจทย์ความหลากหลายของพื้นที่ และต่อยอดไปสู่ Flexible Time, Flexible Place, Flexible Learning Pathway และ Flexible Assessment โดย ดร.เกศทิพย์ย้ำว่า “หน้าที่ของเราคือเก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมายด้วยข้อมูลคุณภาพและปริมาณ เพื่อสร้างระบบการเรียนรู้ที่เข้มแข็งตามหลัก Learning by Doing” ซึ่งได้รับความชื่นชมและความเชื่อมั่นจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (เสมา 1) ว่า สกร. คือกลไกสำคัญในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ของประเทศ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา อธิบดีเกศทิพย์ได้เร่งเดินหน้าสร้างระบบบริหารจัดการใหม่ที่ตอบสนองต่อ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ฯ อย่างเป็นรูปธรรม กรมได้จัดตั้ง Digital War Room และพัฒนา Dashboard กลางของกรม เพื่อใช้ติดตามข้อมูลและผลการดำเนินงานของทุกโครงการแบบเรียลไทม์ พร้อมกำหนดกรอบตัวชี้วัด (KPI 69–70) ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์รัฐบาลและแผนพัฒนาทุนมนุษย์ของประเทศ พร้อมกันนี้ สกร. ได้เร่งจัดทำฐานข้อมูลอัตราเงินอุดหนุนรายหัวของผู้เรียนคนพิการ และจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะด้านงบประมาณกลุ่มเป้าหมายพิเศษ เพื่อให้ผู้เรียนทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม  ระหว่างวันที่ 1–18 ตุลาคม 2568 สกร. ดำเนินภารกิจสำคัญอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เช่น

• การประชุมมอบนโยบายปีงบประมาณ 2569 เพื่อวางกรอบขับเคลื่อนงานทั่วประเทศ

• เปิดโครงการ “Read for the Future ส่งเสริมการอ่าน สร้างอนาคต” ณ วังจันทรเกษม ร่วมกับมูลนิธิเสริมกล้าและภาคีสื่อมวลชน

• ประชุมคณะที่ปรึกษาอธิบดีชุดแรก เพื่อวางแนวทางปรับโครงสร้างองค์กรตามเจตนารมณ์ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ฯ

• กิจกรรม “สกร. ศธ. รวมใจภักดิ์ รักษ์แผ่นดิน” ปลูกต้นไม้และช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

• เปิดศูนย์เทคโนโลยีดิจิทัลของกรม ใช้ Dashboard กลางรายงานผลการดำเนินงาน

• รับมอบหนังสือกว่า 4,600 เล่มจากเยาวชนชมรม Brighter Future และ Brighter Beaming โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา

• จัดพิธีทำบุญสำนักงานเลขานุการกรม และกิจกรรมเสริมขวัญกำลังใจแก่บุคลากรกว่า 300 คน

• ประชุมหารือพัฒนา “ครู สกร. สู่ครูนวัตกร” ร่วมกับหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม

• ลงพื้นที่จังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ ติดตามห้องสมุดประชาชนต้นแบบ Co-Learning Space และแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาสมุนไพรพื้นบ้าน

ทุกภารกิจสะท้อนแนวทาง “กรมลงพื้นที่จริง เห็นของจริง แก้ปัญหาจริง” เพื่อให้ สกร. เป็นองค์กรเรียนรู้ที่เชื่อมโยงความรู้กับชีวิตของประชาชนทุกช่วงวัย

นอกจากนี้ในการประชุมออนไลน์ครั้งนี้ยังได้ติดตามความคืบหน้าโครงการเร่งด่วน 3 ด้าน ได้แก่

1. การเพิ่มงบประมาณรายหัวสำหรับผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส

2. โครงการสอบเทียบวัดระดับความรู้ (Fast Track) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนกว่า 10,000 คน เทียบวัดผลการศึกษาได้รวดเร็ว

3. กิจกรรม “สกร.อาสา พาใช้แอปพลิเคชัน” ซึ่งจัดขึ้นทั่วประเทศระหว่างวันที่ 20–26 ตุลาคม 2568 เพื่อพัฒนาทักษะดิจิทัลให้ประชาชนกว่า 1 ล้านคนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐผ่านเทคโนโลยีได้อย่างปลอดภัย

   อธิบดี สกร. กล่าวว่า “นโยบายคนละครึ่งพลัสของรัฐบาลไม่เพียงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างทุนมนุษย์ดิจิทัลให้กับประเทศ สกร. จะขับเคลื่อนสิ่งนี้ผ่านกิจกรรม ‘สกร.อาสา พาใช้แอปพลิเคชัน’ เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถใช้เทคโนโลยีอย่างมั่นใจและเกิดประโยชน์สูงสุดในชีวิตประจำวัน” ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม สกร. ได้เผยแพร่ภารกิจผ่านเว็บไซต์ เพจประชาสัมพันธ์ และสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สังคมเห็นว่า “กรมส่งเสริมการเรียนรู้” คือองค์กรที่ขับเคลื่อนการเรียนรู้จริงในทุกพื้นที่แนวทางการสื่อสารใหม่นี้เน้น “เรื่องเล่าเชิงบวก” ที่สะท้อนอัตลักษณ์ขององค์กรแห่งความสุข เช่น การพัฒนาห้องสมุด การส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมอาสา และการเรียนรู้ผ่านดิจิทัล

“การเปลี่ยนผ่านสู่กรมส่งเสริมการเรียนรู้ยุคใหม่ ต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นจริงในทุกพื้นที่ของประเทศ เราจะเดินไปด้วยกัน ด้วยความมุ่งมั่นและหัวใจของคนทำงานเพื่อประชาชน” ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กล่าว