รองอธิบดี สกร. ประชุมเคาะหลักเกณฑ์ใหม่ ค่าวิทยากร-วัสดุฝึก ยกระดับหลักสูตรพัฒนาตนเอง 4 มิติ เน้นสอด...
- ข่าวการศึกษา
- รองอธิบดี สกร. ประชุมเคาะหลักเกณฑ์ใหม่ ค...

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ได้มอบหมายให้ นายเอกราช ชวีวัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นประธานการประชุมพิจารณาหลักเกณฑ์การเบิกค่าใช้จ่าย ตามแนวทางการจัด ส่งเสริม สนับสนุนการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง ซึ่งประเด็นสำคัญในการพิจารณาหารือ คือการกำหนดค่าวิทยากร และค่าวัสดุฝึกที่เหมาะสมกับการจัดการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง โดยมีนายนรา เหล่าวิชยา ที่ปรึกษาด้านโครงสร้างบุคลากร/อัตรากำลัง นางสาววัชรีวรรณ กันเดช ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาเครือข่าย นางสาวเอื้อมพร ศรีภูวงศ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ นายกิตติศักดิ์ อาษานอก ผู้อำนวยการกลุ่มนิติการ ข้าราชการบำนาญ ผู้บริหารหน่วยงานการศึกษากรมส่งเสริมการเรียนรู้ และบุคลากรที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุมนสุนทร สุนันท์ชัย ชั้น 4 กรมส่งเสริมการเรียนรู้
นายเอกราช ชวีวัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญในการพิจารณาหารือในครั้งนี้ คือการกำหนด ค่าวิทยากร และ ค่าวัสดุฝึก ที่เหมาะสมกับการจัดการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง โดยอ้างอิงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หลักเกณฑ์การเบิกค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาต่อเนื่อง (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561) หลักเกณฑ์การเบิกค่าใช้จ่ายการจัดการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง (ฝึกอบรมประชาชน) มาตรการประหยัดงบประมาณรายจ่ายของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ และหนังสือปรับอัตราค่าอาหารและที่พักสำหรับการฝึกอบรมใหม่
รองอธิบดี สกร. กล่าวเน้นย้ำว่า การกำหนดขอบเขตค่าวิทยากรจะต้องเหมาะสมกับลักษณะการจัดการเรียนรู้ และคำนึงถึงคุณภาพ ประสบการณ์ ภารกิจ และความเหมาะสมตามระเบียบ โดยได้แบ่งข้อพิจารณาออกเป็น 5 ประเด็นหลัก ดังนี้
1. ยึดหลักความเหมาะสมกับวุฒิและประสบการณ์
2. ยึดหลักความซับซ้อนของเนื้อหาและภาระงาน
3. ยึดตามระเบียบหรือประกาศของทางราชการที่เกี่ยวข้อง
4. ยึดตามความคุ้มค่า โปร่งใส
5. ยึดหลักความเสมอภาคเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ สกร.ได้มุ่งเน้นการพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการและบริบทในปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วย
4 แนวทางสำคัญ ได้แก่
1. หลักสูตรที่สอดคล้องกับบริบทของชุมชน ต้องตอบสนองความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง ผ่านการศึกษาศักยภาพและให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบและพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและนำไปใช้ได้จริง
2.หลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานวิชาชีพ
จัดทำเนื้อหาให้สอดคล้องกับสมรรถนะของมาตรฐานวิชาชีพที่ได้รับการยอมรับ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถแข่งขันในตลาดแรงงานได้
3. หลักสูตรที่สอดคล้องกับยุคดิจิทัล
มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการฝึกทักษะ เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ไขปัญหา และการคิดสร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้และการประกอบอาชีพ
4.หลักสูตรที่สอดคล้องกับอาชีพทั่วไป
มีเนื้อหาครอบคลุมทั้งทักษะเฉพาะทางและทักษะทั่วไป สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเองหรือประกอบอาชีพได้จริง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาต่อยอดทักษะและเสริมสร้างศักยภาพอย่างต่อเนื่อง
การกำหนดหลักเกณฑ์และประเภทหลักสูตรในครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้การจัดการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเองของ สกร. เป็นไปอย่างมีคุณภาพ มีความคุ้มค่า โปร่งใส และสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเรียนรู้ และสามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปใช้ในการพัฒนาตนเองและการประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืนในยุคปัจจุบันต่อไป